หนุ่มอ้างเป็นอาสาฯ ขโมยเครื่อง AED ขายลงโซเชียล ก่อนโดนจับได้ อ้างกำลังเอาไปคืน
668
หนุ่มอ้างเป็นอาสาฯ ขโมยเครื่องAED ขายลงโซเชียล ก่อนโดนจับได้ อ้างกำลังเอาไปคืน บอกขโมยมาแล้ว 6 เครื่อง ด้านคนเห็นเหตุการณ์ เผยขโมยส่วนใหญ่เป็นคนเร่ร่อน สติไม่ดี
จากกรณีสื่อโซเชียล ได้ร่วมกันประณามและเตือนภัย หลังมีมือดีมาขโมยเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ (AED) ที่ติดอยู่ตามป้อมจราจร และสถานที่สาธารณะต่างๆ ไปขายต่อในโซเชียล เบื้องต้นพบหายไปแล้ว 27 เครื่อง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาครายงานว่า นพ. ธนดล โรจนศานติกุล หัวหน้าศูนย์กู้ชีพ ฝ่ายเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางสภากาชาดไทย ในฐานะผู้บริจาคและส่งมอบเครื่องกระตุกหัวใจ (AED) ได้มีโครงการความร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ในการนำเครื่องกระตุกหัวใจ AED ไปติดตั้งในพื้นที่สาธารณะทั่วประเทศรวม 1,100 เครื่อง
รวมถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 สภากาชาดไทยก็ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนำเครื่องกระตุกหัวใจไปติดตั้งไว้ตามป้อมตำรวจ และพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร รวม 262 เครื่อง เพื่อเป็นอุปกรณ์ช่วยกู้ชีวิตประชาชนที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งได้ทยอยติดตั้งไปแล้ว 255 เครื่อง แต่กลับเพิ่งทราบจากข่าว ว่า มีเครื่องกระตุกหัวใจบางส่วนถูกขโมยหายไปจำนวน 27 เครื่อง มูลค่าเครื่องละ 69,000 บาท รวมความเสียหายกว่า 1,863,000 บาท เบื้องต้นจึงได้ประสานไปยังตำรวจนครบาลให้ตรวจสอบแล้ว เพราะถือเป็นผู้รับผิดชอบเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจหลังได้รับมอบแล้ว
ส่วนสภากาชาดไทย จะดูแลเครื่องผ่านแอปพลิเคชั่น "AED กระตุกหัวใจ" ซึ่งจะแสดงจุดติดตั้งเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ และไว้ติดตามสถานะการใช้งานของเครื่อง รวมถึงเพื่อการซ่อมบำรุง ซึ่งพบว่า บางจุดที่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหายไป ขึ้นสถานะว่า "กำลังซ่อม"
ทั้งนี้ เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ ถือว่ามีความสำคัญในการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นฉับพลันเป็นอย่างมาก จึงไม่สามารถเก็บไว้ในห้อง ออฟฟิศ หรือมีกุญแจล็อกได้ เพราะจะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงหรือหยิบออกมาใช้งานในยามเกิดเหตุฉุกเฉินได้ลำบาก
โดยหากสามารถใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ และทำ CPR ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้ทันภายใน 2 นาที จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ผู้ป่วยได้มากกว่าการรอรถพยาบาล หรือนำตัวผู้ป่วยมารักษาที่โรงพยาบาลอย่างมาก ซึ่งคู่มือและป้ายสัญลักษณ์บอกวิธีการใช้งานของเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจจะเป็นภาษาไทย รวมถึงมีระบบเสียงพูดเป็นภาษาไทยด้วย ทำให้คนทั่วไปสามารถใช้งานได้ง่าย ขณะเดียวกันประชาชนสามารถโทรศัพท์ ติดต่อสายด่วน 1669 เพื่อให้คำแนะนำควบคู่ระหว่างการช่วยเหลือผู้ป่วยได้ด้วย
ด้านวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณแยกราชดำริ เปิดเผยว่า เมื่อ 4-5 เดือนก่อนได้เห็นเหตุการณ์ขณะที่มีคนมาขโมยเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจไปจากตู้บริเวณแยกราชดำริ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเร่ร่อน สติไม่ดีพยายามมาหยิบไปหลายครั้งแล้ว แต่ตนได้ห้ามปรามไว้ แต่ครั้งล่าสุดเป็นผู้หญิงถือไม้หน้าสามมาด้วย จึงไม่กล้าเข้าไปห้าม แต่ได้ถ่ายภาพเป็นหลักฐานส่งให้ตำรวจแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวคนร้ายที่ขโมยเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ ไปโพสต์ขายต่อในโซเชียลมีเดียได้แล้ว เบื้องต้นยอมรับว่า ขโมยมาแล้ว 6 เครื่อง และอ้างว่า กำลังจะนำไปคืน.